จากบทความที่แล้วที่เราได้กล่าวถึง 5 ดอกไม้กินได้ วันนี้เราจะมาเพิ่มอีก 5 รายชื่อดอกไม้ที่กินได้และมีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน มาสมทบเพิ่มกับของเดิม มีรายชื่อดอกไม้อะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. ดอกมะลิ
มะลิ อันเป็นดอกไม้ไทยที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ สัญลักษณ์ของวันแม่ จึงนับว่าเป็นดอกไม้ที่คนไทยย่อมรู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยดอกมะลิอยู่คู่กับคนไทยมาแต่โบราณ มีกลิ่นหอมละมุน นิยมร้อยมาลัยไหว้พระ และนำมาลอยน้ำดื่ม อบขนม ปรุงอาหาร และทำน้ำอบ น้ำปรุง หรือเครื่องประทินผิวที่ต้องการกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ถิ่นกำเนิด : ประเทศแถบเอเชีย
ลักษณะดอก : ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน ละมุน
สรรพคุณดอกมะลิ : แก้ไข้ แก้อาการปวดท้อง บำรุงครรภ์
วิธีปรุงดอกมะลิ : เก็บดอกมะลิที่ยังตูมในช่วงเช้า ล้างให้สะอาดแล้วตัดขั้วดอกทิ้ง นำไปอบในน้ำเปล่าต้มสุก ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน เพื่อใช้เป็นน้ำดื่มให้ความสดชื่น หรือนำไปแช่เย็นไว้ดื่ม เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย หรือทำเพื่อเตรียมไว้เป็นวัตถุในการทำเมนูอาหาร หรือเมนูขนมไทยอื่น ๆ
2. ดอกขจร
ดอกขจร หรือ ดอกสลิด มีสีเขียวอ่อนอมเหลือง ออกดอกเป็นช่อจากไม้เถาเลื้อย ดอกขจรมีรสจืดปนขมเล็กน้อย อัดแน่นไปด้วยวิตามินช่วยบำรุงสายตา ออกดอกมากในช่วงหน้าฝน
ถิ่นกำเนิด : ประเทศจีน
ลักษณะดอก : ออกดอกเป็นช่อ สีเขียวอ่อน มีรสจืด
สรรพคุณดอกขจร : มีวิตามินเอ บำรุงสายตา
การใช้ประโยชน์ดอกขจร : ปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ยำ ผัดน้ำมันหอย และลวกกินกับน้ำพริก
3. ดอกโสน
ดอกโสนสีเหลืองสดใส มีรสจืดและมัน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูกและสมอง ออกดอกมากในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม ซึ่งเข้าสู่ปลายฤดูฝน การเก็บดอกโสนควรเก็บดอกตูมในช่วงตอนเย็น
ถิ่นกำเนิด : เขตร้อนทวีปเอเชีย
ลักษณะดอก : ดอกสีเหลืองสด ออกเป็นช่อ
สรรพคุณดอกโสน : มีแคลเซียม และ ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและสมอง
การใช้ประโยชน์ดอกโสน : ใช้ทำขนม อาหาร และสีผสมอาหาร
วิธีปรุงดอกโสน : เลือกเก็บดอกตูมในช่วงเช้า โดยเด็ดเอาก้านดอกออกให้หมด ก่อนนำไปปรุงอาหาร ลวกจิ้มน้ำพริก ชุบแป้งทอด ใส่ใข่เจียว แกงเผ็ด หรือนำไปทำเมนูของหวาน และขนมไทยอื่น ๆ
4. ดอกเฟื่องฟ้า
ดอกเฟื่องฟ้า คือ ราชินีแห่งไม้ประดับ ที่คนไทยนิยมปลูกแทบทุกบ้านมาตั้งแต่โบราณ เพราะนอกจากใช้ประดับบ้านให้แลดูสวยงาม ดอกเฟื่องฟ้ายังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพร ช่วยบำรุงหัวใจ ระบบการขับถ่าย จึงมีการนำดอกเฟื่องฟ้ามากินเพื่อการดูแลสุขภาพด้วยเช่นกัน อีกทั้งเฟื่องฟ้าทนต่อสภาพอากาศและแมลง ศัตรูพืชการเกษตร จึงนิยมปลูกเฟื่องฟ้ากันอย่างมากในเมืองไทย
ถิ่นกำเนิด : บลาซิล
ลักษณะดอก : ใบดอกบางคล้ายกระดาษ มีสีสันสดใส
สรรพคุณดอกเฟื่องฟ้า : บำรุงหัวใจ ช่วยระบบขับถ่าย
การใช้ประโยชน์ดอกเฟื่องฟ้า : ใช้ประดับสถานที่เพื่อความสวยงาม ปรุงอาหาร โดยส่วนใหญ่จะใช้ในเมนูที่ไม่ผ่านความร้อน เพราะสีสันของดอกเฟื่องฟ้าจะหายไปเมื่อถูกความร้อน เราจึงมักเห็นดอกเฟื่องฟ้าในเมนูส้มตำหรือยำเป็นส่วนใหญ่
5. ดอกแนสเตอร์ชัม
ดอกแนสเตอร์ชัม ภาษาอังกฤษ คือ Nasturtium แปลว่า มีกลิ่นแตะจมูก เนื่องจากดอกแนสเตอร์ชัมมีกลิ่นหอมแรง ในขณะที่ตัวดอกมีสีสันหลากหลาย สีส้ม สีแดง สีเหลือง แถมยังมีรสชาติค่อนข้างเผ็ดสักหน่อย การปลูกดอกแนสเตอร์ชัมนั้นไม่ยาก ทำให้เป็นที่นิยมปลูกกันมากในตะวันตก แต่ถ้านำมาปลูกในไทย อาจไม่ง่ายเท่าไรนัก
ถิ่นกำเนิด : ชิลี เม็กซิโกตอนใต้
ลักษณะดอก : สีสันสดใส กลิ่นหอมแรง
สรรพคุณดอกแนสเตอร์ชัม : มีวิตามินซีสูง ป้องกันหวัด
การใช้ประโยชน์ดอกแนสเตอร์ชัม : กินได้ทั้งในส่วนของดอกและใบ ทำเป็นสลัดผัก ตกแต่งจานอาหาร
วิธีปรุงดอกแนสเตอร์ชัม : ทำสลัด ตกแต่งจานอาหาร ตกแต่งขนม หรือ เบเกอรี่ เพื่อเพิ่มมูลค่า