เทรนด์ฮิตของคนรักสุขภาพ และวงการแห่งขนมและอาหารก็ให้การตอบรับอย่างดี และมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ กับ ดอกไม้กินได้ ที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่ความสวย ที่จริงคนไทยกินดอกไม้เป็นผักมาช้านาน แต่ก็มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายชนิดที่กินได้ แถมยังช่วยให้คุณมีผิวสวยจากการกินดอกไม้ได้ด้วย แต่! ใจเย็น ๆ อย่ารีบไปเด็ดดอกไม้มาเข้าปาก เพราะต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนว่าดอกไม้ชนิดไหนกินได้บ้าง แต่ถึงแม้ว่าจะแน่ใจแล้วว่าเป็นดอกไม้ที่กินได้ แต่ไม่ควรซื้อดอกไม้ที่มีขายทั่วไปมาทาน เพราะมักจะมีสารเคมี รวมไปถึงดอกไม้ริมทาง เพราะเราไม่รู้เลยว่าบริเวณนั้นมีอะไรปนเปื้อนอะไรอยู่บ้าง ถ้าจะให้ดีควรเป็นดอกไม้ที่เราปลูกเองหรือมีอยู่ในสวนของเราเองจะปลอดภัย ทานได้อย่างสบายใจ
การเก็บดอกไม้เหมือนกับการเก็บผักผลไม้ คือ ควรเก็บดอกไม้ในช่วงเช้าเพื่อให้คงคุณค่าของคุณประโยชน์ในดอกไม้ และควรเก็บไว้ในตู้เย็น ห้ามนำไปล้างก่อนแช่ แต่ให้ล้างดอกไม้เมื่อจะใช้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นดอกไม้จะช้ำและเสียเร็ว
5 รายชื่อดอกไม้กินได้ มีอะไรบ้าง
1. คาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์คล้ายกับดอกเดซี มีกลีบสีขาวแต่ส่วนตรงกลางของดอกเป็นสีเหลือง มีรสหวาน ถูกนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่สมัยอียิปต์ เนื่องจากในดอกคาโมมายล์มีสารอะพิจินีน (Apigenin) ต้านการอักเสบ ช่วยคลายความกังวล ช่วยให้หลับสนิท นิยมนำดอกคาโมมายล์ตากแห้งทำเป็นชาชงดื่ม
ถิ่นกำเนิด :ยุโรปตะวันตก
ลักษณะดอก : ดอกเล็ก สีขาว และ สีเหลือง
สรรพคุณดอกคาโมมายล์ : ช่วยผ่อนคลาย ทำให้หลับสนิท
การใช้ประโยชน์ดอกคาโมมายล์ : ดอกตากแห้งทำชาคาโมมายล์ ใช้เป็นยาต้านการอักเสบ สกัดเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ
วิธีปรุงดอกคาโมมายล์ : ใช้ดอกแห้งชงกับน้ำเดือด ดื่มเพื่อความผ่อนคลาย ดื่มก่อนนอนเพื่อให้หลับสนิท แต่ไม่ควรทิ้งชาไว้ข้ามคืน
2. ลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์ สมุนไพรสีม่วงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ นิยมนำมาสกัดใช้เป็นอโรม่าเทอร์ราพี บรรเทาให้ผ่อนคลายทางร่างกายและจิตใจ บรรเทาแผลจากแมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยไล่แมลง และยังนำมาปรุงเป็นอาหารได้อีกด้วย
ถิ่นกำเนิด : แถบเมดิเตอร์เรเนียน
ลักษณะดอก : ดอกเล็กสีม่วง มีกลิ่นหอม
สรรพคุณดอกลาเวนเดอร์ : ใช้เป็นอโรม่าเทอร์ราพี กลิ่นบำบัด ช่วยผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อย ลดการอักเสบ
การใช้ประโยชน์ลาเวนเดอร์ : นำดอกแห้งทำชา ผสมทำขนม เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม
วิธีปรุงดอกลาเวนเดอร์ : นำดอกลาเวนเดอร์ตากแห้งชงเป็นชา หรือบดเป็นผงลาเวนเดอร์ละเอียดใช้ปรุงรส ปรุงกลิ่นของหวาน เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ดูแลผิวพรรณ เครื่องสำอาง
3. อัญชัน
ดอกอัญชันอันเป็นที่รู้จักและคุ้นตากันเป็นอย่างดีในเมืองไทย เพราะขึ้นง่ายมาก ๆ ตั้งแต่หน้าบ้าน ริมรั้ว ริมทาง แม้แต่ริมถนนในเมืองใหญ่ก็ยังมีอัญชันให้เราได้เห็น อัญชันมีสีน้ำเงิน สีขาว สีชมพู และสีขาว-น้ำเงิน แต่ที่เราพบได้บ่อยคืออัญชันสีน้ำเงิน ในดอกอัญชันมีสารแอนโธไซยานินช่วยต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติและเมื่อสารแอนโธไซยานินโดนกรดจะกลายเป็นสีม่วง มีฤทธิ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการมองเห็น
ถิ่นกำเนิด : อเมริกาใต้
สารให้สี : สารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin)
สรรพคุณดอกอัญชัน : ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
การใช้ประโยชน์ดอกอัญชัน : ทานสด ดอกชงเครื่องดื่ม ย้อมสีอาหาร ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและดูแลเส้นผม
วิธีปรุงดอกอัญชัน : กินสดเป็นผักเคียงน้ำพริก สลัดผัก ใช้สีผสมอาหาร ขนม ชงเป็นเครื่องดื่ม
4. ดอกไชว์
พืชสมุนไพรสีชมพูม่วงอ่อนหรือสีขาว มีลักษณะคล้ายต้นหอม แต่ไชน์มีขนาดเล็กกว่า และมีกลิ่นคล้ายหัวหอม ชาวตะวันตกนิยมนำมาใช้ปรุงอาหาร เช่น สวีเดน ฝรั่งเศส
ถิ่นกำเนิด : เอเชียและยุโรป
ลักษณะดอก : ดอกเล็ก มีกลิ่นฉุน
สรรพคุณดอกไชว์ : บำรุงน้ำนม ลดคอเลสเตอรอล
การใช้ประโยชน์ดอกไชว์ : ใช้ใบปรุงรส แต่งกลิ่น
วิธีปรุงดอกไชว์ : นำใบไชว์ใช้ปรุงรส แต่งกลิ่นให้กับอาหาร โดยเฉพาะเมนูอาหารทอด เมนูสลัดผักสด น้ำสลัด ส่วนของดอกไชว์จะใช้ตกแต่งจานอาหาร
5. กุหลาบมอญ
ดอกกุหลาบมอญที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่ความสวย แต่ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และสามารถนำมากินได้ด้วย นำมาปรุงเป็นอาหาร มีสรรพคุณทางยาจึงถูกนำมาใช้เป็นยาด้วยเช่นกัน แต่ไม่ใช่จะทำได้ทุกสายพันธุ์ ต้องเป็นดอกกุหลาบมอญเท่านั้น และควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่าดอกกุหลาบชนิดใดทานได้
ถิ่นกำเนิด : เมืองหงสาวดี
ลักษณะดอก : ดอกเป็นช่อแบบกระจาย
สรรพคุณกุหลาบมอญ :บำรุงหัวใจ แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยระบาย
การใช้ประโยชน์กุหลาบมอญ : นำดอกทำอาหาร ปรุงเป็นน้ำหอม ใช้เป็นยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
วิธีปรุงดอกกุหลาบมอญ : ใช้กลีบดอกปรุงอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่น สีสัน และรสชาติอาหาร หรือนำดอกกุหลาบมอญตากแห้งทำเป็นชาชงดื่ม