เมื่อมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ต้องอยู่ให้รอดจนถึงสิ้นเดือน!?!

“สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ” ประโยคของชาวออฟฟิศหลาย ๆ คน และยังคงเป็นวลีฮิตที่ยังไม่จางหายไปไหน วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเอาตัวรอดจนถึงวันเงินเดือนออกกันค่ะ แต่จะได้ผลมากน้อยอย่างไร ขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบที่ต่างกันออกไปของแต่ละคน

1. วางแผนการเงิน 

อันดับแรกเลยคือ เมื่อเงินเดือนออนำเงินเดือนออกมาแผ่หราเลยว่ามีเท่าไร จะได้รู้ว่ามีเงินก้อนทั้งหมดเท่าไร จกานั้นแบ่งออกเป็นกอง ๆ กองไหนสำหรับจ่ายเพื่ออะไร และจะเหลือเงินที่สามารถใช้จ่ายในแต่ละวันก่อนถึงสิ้นเดือนเท่าไร และนำกองเงินสำหรับใช้จ่ายมาแบ่งออกยิบย่อยอีกครั้งว่าจะใช้วันละเท่าไร จะได้คำนวณไว้คร่าว ๆ หากใช้เงินตามจำนวนเงินที่แบ่งย่อยไว้ ก็จะช่วยให้สามารถอยู่รอดได้ถึงและจะต้องแบ่งกองสำหรับเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย อันนี้สำคัญมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างก่อนถึงสิ้นเดือน   

2. ทำอาหารกินเอง

หวังว่าจะไม่ลืมแบ่งกองเงินไว้สำหรับค่าอาหาร นำเงินแบ่งจากข้อที่แล้วไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารเองจากที่บ้าน แล้วทำไปกินที่ทำงาน แม้ว่าค่าวัตถุดิบเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกกว่ากันมากนัก แต่ก็พอจะช่วยยืดหยุ่นได้บ้าง และบางคนอาจทำทานได้ 2 มื้อ คือ มื้อเช้า และมื้อกลางวัน ในราคาต้นทุนที่อาจพอ ๆ กับที่เราไปซื้ออาหารมื้อกลางวัน 1 มื้อ แถมยังได้อาหารรสชาติที่ถูกปาก และควบคุมการผลิตได้เอง งดเว้นการใส่ผงชูรส น้ำตาล หรือแม้แต่คุณภาพเครื่องปรุงต่าง ๆ ทั้งได้สุขภาพและประหยัดลงไปได้อีก 

3. งดจ่ายหรือซื้อของไม่จำเป็น 

จากข้อแรกที่เราแบ่งเงินออกเป็นกอง ๆ จะทำให้เห็นชัดเจนว่า อะไรคือค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าห้อง ค่าเดินทาง ค่าอาหาร เป็นต้น และอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไป เพราะอาจทำให้ระบบการเงินเราเขว และไม่พอใช้จนถึงสิ้นเดือน และสำหรับใครที่มีบัตรเครดิต ถือคติว่า ของมันต้องมี รูด ๆ ไปก่อน สิ้นเดือนค่อยจ่ายคืนบัตร ทั้งที่ของสิ่งนั้นไม่ได้จำเป็นเท่าไรนัก เช่น เสื้อผ้าใหม่ กระเป๋าใหม่ อาหารราคาแพง ของกระจุกกระจิก เป็นต้น คุณรู้ไหมว่า การที่เงินสดหมดจนต้องพึ่งพาบัตร คือการนำเงินอนาคตมาใช้ก่อนนั้น แสดงว่ากำลังใช้เงินเกินตัว และมันก็จะวนลูปอย่างนี้ซ้ำ ๆ คือ นำเงินอนาคตมาใช้ สิ้นเดือนจ่ายหนี้บัตร แล้วก็จะเหลือเงินสดไม่พอถึงสิ้นเดือน แล้วก็ใช้บัตรรูดแทนเงินสด วนลูปไปไม่รู้จบ ซึ่งมักจะเป็นปัญหาใหญ่ของคนที่มีบัตรเครดิตที่ไม่วางแผนให้ดี

4.งดปาร์ตี้ชั่วคราว 

การสังสรรแต่ละครั้งนั้นย่อมหมายถึง ค่าใช้จ่าย และไม่ใช่จ่ายน้อย ๆ ด้วย ไม่ว่าจะอาหาร เครื่องดื่ม และแหล่งเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมีราคาสูงกว่าปกติ จึงควรคำนึงเงินที่มีทั้งหมดไว้ให้ดี ทบทวนเงินในกองที่แบ่งไว้ ว่าเพียงพอและคุ้มต่อการนำไปละลายเพียงเพื่อความสนุกในเวลาไม่กี่ชั่วโมง กับการที่ต้องอยู่ให้รอดไปอีก 744 ชั่วโมง จนกว่าจะถึงวันเงินเดือนออกรอบใหม่ไหม ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริง ๆ ควรจะเลี่ยงและงดไปก่อน อาจค่อยหาโอกาสอื่นที่สะดวกและจะไม่เดือดร้อนด้านการเงินในอนาคตดีกว่า 

5. นำของที่มีมาขาย หรือของขายเสริมรายได้ 

นำของที่มีอยู่และไม่ค่อยได้ใช้ อีกทั้งยังสามารถนำไปขายต่อได้ นอกจากจะได้เงินค่าขนมเพิ่มขึ้น ยังถือเป็นโอกาสในการจัดห้อง เคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออก ได้พื้นที่ใช้สอยของบ้านเพิ่มขึ้น จากที่รก ๆ เต็มไปด้วยข้าวของ บ้านก็โล่งขึ้นด้วย หากใครมีฝีมือในการทำอาหาร หรือสิ่งประดิษฐ์ อาจใช้เวลาวันหยุดหรือช่วงเวลาว่าง ๆ จากงานประจำ ทำและนำไปขาย ได้ทั้งเงิน นำความรู้ความสามารถที่มีมาใช้ประโยชน์ หรืออาจเรียนรู้จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้พัฒนาสกิลตัวเองและได้เงินด้วย  

6. หยิบยืมเงินในอนาคตมาใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น 

กรณีเหตุจำเป็น หรือไม่ไหวแล้วจริง ๆ อาจจะต้องพึ่งเงินในอนาคตมาใช้ก่อน ด้วยการใช้บัตรต่าง ๆ หรือการหยิบยืมเงินจากที่ใดก็ตาม แต่นั่นจะต้องเป็นเหตุที่สำคัญหรือจำเป็นเท่านั้น! ไม่เช่นนั้น จะต้องกลับไปอ่านข้อที่ 3 ใหม่อีกครั้ง และเมื่อไรที่ต้องหมุนเงิน จะต้องมีสติในการใช้และเตือนตัวเองอยู่เสมอ ว่าที่ใช้ครั้งนี้ด้วยเหตุใด และอย่าลืมว่า เงินที่คุณต้องคืนเขาในแต่ละครั้งที่จ่ายไป  มันมากกว่าที่นำมาใช้จริงเสียอีก ทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย ไหวไหม ถามใจตนดู  

เรื่องการเงินนั้นล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ของทุกคนทุกอาชีพ ดังนั้นการวางแผนการเงินและการใช้จ่ายนั้นสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องเรียนหรือจบฝ่ายบัญชีมา อย่างน้อยการวางแผนจะช่วยให้เห็นว่าอะไรจำเป็น เรียงความสำคัญได้คร่าว ๆ 1 , 2 , 4 , … และอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไป ค่าใช้จ่ายก็จะตีวงแคบลงมา ทำให้พอมีเงินใช้จ่ายได้อย่างไม่ขัดสนจนเกินไปนัก นอกจาก 6 วิธีเอาตัวรอดจนถึงสิ้นเดือน ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ ยังมีอีกหลายวิธีการด้วยกันที่ใครหลายคนน่าจะกำลังใช้อยู่ แต่ก็หวังว่า 6 ข้อนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับมนุษย์เงินเดือนทุกคนได้บ้าง เพราะเราต้องรอด!!