ต้องยอมรับว่า โซฟา คือ เฟอร์นิเจอร์สารพัดประโยชน์ของหลาย ๆ บ้าน และยังเป็นศูนย์รวมของสมาชิกในบ้าน หรือใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน รับแขก นั่งทำงาน นั่งเล่น นั่งทานข้าว นั่งดูทีวี หรือแม้แต่การนอนบนโซฟา แต่เมื่อเราใช้งานไปนาน ๆ ย่อมจะเกิดคราบสกปรก มีไรฝุ่นสะสม หรือเลอะจากการทำอาหาร ขนม และ เครื่องดื่มต่าง ๆ หกลงบนโซฟา รวมถึงขนของสัตว์เลี้ยงแสนรัก กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค นอกจากจะดูไม่สวยงาม อาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ หรืออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ตามมาได้ ยิ่งบ้านไหนมีเด็กเล็ก ยิ่งต้องรักษาความสะอาดและโซฟาคือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
เดี๋ยวนี้ประเภทโซฟามีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งโซฟาผ้า โซฟาหนัง โซฟาแบบถอดปลอกซักไม่ได้ และ โซฟาแบบถอดปลอกซักได้ เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ ความชอบส่วนตัว รูปแบบการตกแต่ง และเหมาะสมต่อการใช้งานที่แต่ละบ้านต้องการมากที่สุด การทำความสะอาดโซฟาในแต่ละประเภทจึงมีวิธีที่อาจไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีการใช้บริการจ้างบริษัททำความสะอาดโซฟาโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะทำความสะอาดโซฟาด้วยตนเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และส่วนใหญ่จะใช้วิธีทำความสะอาดโซฟาด้วยเครื่องดูดฝุ่น แต่กรณีที่ไม่มีเครื่องดูดฝุ่นล่ะ จะทำอย่างไร? เรามีวิธีทำความสะอาดโซฟาผ้าที่ทำเองได้ไม่ยาก แถมช่วยเซฟเงินในกระเป๋าอีกด้วย
วิธีทำความสะอาดโซฟาผ้าด้วยตัวเอง
ก่อนจะทำความสะอาดโซฟาผ้าควรตรวจสอบว่าทำจากวัสดุชนิดใด เพื่อจะได้เลือกวิธีทำความสะอาดที่เหมาะสม ไม่เกิดความเสียหายจากการทำความสะอาดโซฟาผิดวิธี
1. ตรวจสอบประเภทโซฟา
โซฟาผ้าจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ โซฟาผ้าที่ถอดซักได้ และ ถอดซักไม่ได้ วิธีทำความสะอาดโซฟาผ้าถอดซักได้ ควรซักด้วยมือจะช่วยรักษารูปทรงและเส้นใยผ้าได้ดีกว่าการใช้เครื่องซักผ้า ส่วนโซฟาแบบถอดปลอกไม่ได้ต้องระมัดระวังเรื่องอับชื้นเป็นพิเศษ เพราะต้องทำความสะอาดลงบนโซฟาโดยตรง
2. ตรวจสอบป้าย Care Tag ของโซฟา
ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นประเภท เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มักจะมีป้าย Care Labels หรือ ป้าย Care Tag สำหรับแนะนำวิธีการดูแลผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้อย่างถูกต้อง โดยป้าย Care Tag โซฟาจะมีสัญลักษณ์ ดังนี้
- X : ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด
- W : ใช้น้ำทำความสะอาดได้
- S : ทำความสะอาดด้วยน้ำยาประเภทสารระเหยเท่านั้น
- WS : ทำความสะอาดด้วย น้ำ และ น้ำยาประเภทสารระเหย ได้
กรณีที่โซฟาไม่มีป้าย Care Tag แจ้งวิธีการดูแลรักษา ควรสอบถามร้านที่จำหน่าย หรือ โรงงานผลิตสินค้าที่สั่งซื้อ เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างเหมาะสม และป้องกันความเสียหายจากการดูแลโซฟาผิดวิธี
3. ทำความสะอาดโซฟาผ้า ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน โดยเลือกให้ตรงกับข้อจำกัดบนป้ายแท็กที่แจ้งไว้
- ใช้เบกกิ้งโซกาจำกัดกลิ่นไม่พึงประสงค์บนโซฟา ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอาหาร กลิ่นเหงื่อ กลิ่นอับชื้น หรือ กลิ่นของสัตว์เลี้ยง โดยการโรยเบกกิ้งโซดารอบ ๆ บริเวณที่มีกลิ่น ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงทำการเช็ดผงเบกกิ้งโซดาออกให้หมด
- ใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดโซฟาด้วยการผสมกับน้ำส้มสายชู และน้ำยาล้างจาน วิธีนี้จะช่วยขจัดคราบฝังแน่น เช่น คราบชา กาแฟ น้ำหวาน หรือ คราบไวน์ โดยเริ่มจากการใช้ผ้าเช็ดคราบเหล่านั้นออกเสียก่อน จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู และ น้ำยาล้างจานเข้าด้วยกันในน้ำอุ่นให้เกิดฟอง แล้วใช้ผ้าชุบไปเช็ดคราบดังกล่าว เช็ดทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ก่อนจะเช็ดออกด้วยน้ำเปล่าสะอาดเป็นการปิดท้าย
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะรถยนต์ จะเลือกใช้ชนิดโฟมหรือแบบน้ำก็ได้ โดยจะต้องทดลองใช้น้ำยากับหลังโซฟาก่อน ด้วยการหยดน้ำยาลงด้านหลังโซฟาเพื่อดูว่าผ้าซีดลงหรือไม่ หากผ้าไม่ซีด สามารถฉีดน้ำยาลงบนโซฟาได้เลย ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก โดยออกแรงกดเพื่อให้คราบสกปรกจางลง
- นำโซฟาตากแดดอ่อน ๆ เพราะแสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อโรค แถมยังดับกลิ่นได้เป็นอย่างดี วิธีนี้ได้ผลดีแถมประหยัดสุด ๆ แต่ต้องผึ่งแดดอ่อน ๆ และอย่าตากแดดเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ผ้าซีด และโซฟาอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ขจัดคราบหมากฝรั่งด้วยน้ำแข็ง ด้วยการนำน้ำแข็งใส่ถุงแล้วนำไปประคบรอยหมากฝรั่งที่ติดอยู่บนโซฟา จนหมากฝรั่งแข็งตัวเป็นก้อนเดียวกัน จากนั้นใช้มีดหรืออุปกรณ์แข็ง ๆ แงะหมากฝรั่งออกจนหมด หากมีคราบเหลือง ๆ จากหมากฝรั่งทิ้งรอยไว้ ให้ใช้เบกกิ้งโซดา หรือ น้ำยาทำความสะอาดกำจัดคราบเหลืองออก